“พิธา” ยันขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ย้ำมีหลักการไม่ได้ขึ้นตามใจตัวเอง

วันที่ 23 พฤษภคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเข้าพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังข้อเสนอนโยบายจากภาคอุตสาหกรรมพร้อมทั้งรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อกังวลของตัวแทนภาคอุตสาหกรรม ตอนหนึ่งว่า ในที่ประชุม มีการพูดคุยถึงค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงความสม่ำเสมอในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามอัตราเงินเฟ้อ หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจของ GDP

ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชนในช่วงของแพงค่าแรงถูกยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน โดยพรรคก้าวไกลเสนอที่ 450 บาท พรรคเพื่อไทยเสนอที่ 400 บาท แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงถึงเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการ

เรื่องนี้เกิดขึ้นในการพูดคุย แต่อาจจะไม่ผ่านการนำเสนอของสื่อ จึงอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพอเกิดรัฐบาลผสม นโยบายค่าแรง 450 ไม่สามารถทำได้ทันที อันนี้ไม่เป็นความจริง โดยเรากำลังเดินหน้ากับสภาอุตสาหกรรมต่างๆ หอการค้า พี่น้องแรงงาน สภาแรงงาน สภา SME เพื่อให้รอบคอบ แต่ยังยืนยันว่าค่าแรงขั้นต่ำมีความจำเป็นต้องขึ้นจริงๆ และต้องขึ้นสม่ำเสมอ อัตโนมัติ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝั่ง นายจ้างสามารถควบคุมต้นทุนได้ ขณะที่ลูกจ้างก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานสามารถเกิดขึ้นได้จริง

ยืนยันว่าการขึ้นค่าแรงไม่ได้ทำตามใจตัวเอง แต่ขึ้นแบบมีหลักการ หลักสากลว่าตัวเลขควรจะเปแนอย่างไร เพราะเมื่อเราคำนวณค่าเงินเฟ้อ หรือสภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนประสิทธิภาพแรงงานที่เพิ่มขึ้น ค่าแรงควรที่จะอยู่ที่ 450 เป็นตัวเลขที่เหมาะสม พร้อมกับแพ็กเกจดูแลผู้ประกอบการไปด้วยกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้องรอให้กกต.รับรอง ส.ส. ต้องรอการเปิดประชุมสถา เลือกประธานสภา ก่อนที่จะเข้าไปเป็นนายกฯ 1-2 เดือน ดังนั้นในช่วงเวลานี้ตนจึงต้องเดินสายรับฟังให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าจำเป็นต้องขึ้นค่าแรงจริงๆ และเมื่อขึ้นก็ต้องหามาตรการว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

"พิธา" หารือสภาอุตสาหกรรมฯ เรียกความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ

เลือกตั้ง 2566 : ยังยาก! "พิธา" ฝ่าด่าน ส.วคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม. แก้ ม.112

เมื่อถามว่าตอนนี้ตลาดหุ้นยังผันผวนอยู่จะให้ความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่างประเทศอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า รับประกันได้ว่ารัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการขับเคลื่อนแระเทศจะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องนี้ โดยในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมามีความผันผวนในระบบ คนที่ชนะเลือกตั้งมีโอกาสที่จะไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะระบบการเมืองมีอยู่ ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนกังวลไม่ใช่ศักยภาพของประเทศไทย แต่กังวลความไม่แน่นอนทางการเมือง ความไม่แน่นอนที่เป็นระเบิดเวลาตั้งแต่รับธรรมนูญ 2560 ดังนั้นหากจะให้จะทำให้เกิดเสถียรภาพขึ้น ก็ต้องมาคุยกันว่าเรากลับมาสู่ระบบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภาแล้ว และเจตจำนงของประชาชนจะไม่สูญเปล่า ซึ่งหากเรื่องนี้ชัดเจนตนคิดว่าตลาดไปต่อ

วันที่ 23 พฤษภคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเข้าพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังข้อเสนอนโยบายจากภาคอุตสาหกรรมพร้อมทั้งรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อกังวลของตัวแทนภาคอุตสาหกรรม ตอนหนึ่งว่า ในที่ประชุม มีการพูดคุยถึงค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงความสม่ำเสมอในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามอัตราเงินเฟ้อ หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจของ GDP ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชนในช่วงของแพงค่าแรงถูกยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน โดยพรรคก้าวไกลเสนอที่ 450 บาท พรรคเพื่อไทยเสนอที่ 400 บาท แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงถึงเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการ เรื่องนี้เกิดขึ้นในการพูดคุย แต่อาจจะไม่ผ่านการนำเสนอของสื่อ จึงอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพอเกิดรัฐบาลผสม นโยบายค่าแรง 450 ไม่สามารถทำได้ทันที อันนี้ไม่เป็นความจริง โดยเรากำลังเดินหน้ากับสภาอุตสาหกรรมต่างๆ หอการค้า พี่น้องแรงงาน สภาแรงงาน สภา SME เพื่อให้รอบคอบ แต่ยังยืนยันว่าค่าแรงขั้นต่ำมีความจำเป็นต้องขึ้นจริงๆ และต้องขึ้นสม่ำเสมอ อัตโนมัติ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝั่ง นายจ้างสามารถควบคุมต้นทุนได้ ขณะที่ลูกจ้างก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานสามารถเกิดขึ้นได้จริง ยืนยันว่าการขึ้นค่าแรงไม่ได้ทำตามใจตัวเอง แต่ขึ้นแบบมีหลักการ หลักสากลว่าตัวเลขควรจะเปแนอย่างไร เพราะเมื่อเราคำนวณค่าเงินเฟ้อ หรือสภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนประสิทธิภาพแรงงานที่เพิ่มขึ้น ค่าแรงควรที่จะอยู่ที่ 450…